ทอง 18K มีดีอะไร ทำไมแบรนด์ไหน ๆ ก็หยิบไปใช้ในงานจิวเวลรี่

ทอง 18K คืออะไร? ทำไมนิยมในงานจิวเวลรี่

“สวยงามดูดี แถมยังทนทาน”

เครื่องประดับสวย ๆ จากแบรนด์ดังคุณภาพดี ทำไมต้องใช้แต่ทอง 18K นั่นเป็นเพราะ ทอง 18K คือทองแท้ที่มีส่วนผสมของทองอยู่มากถึง 75% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ทองที่กำลังพอเหมาะพอดี เพราะเด่นทั้งเรื่องความสวยงาม มูลค่าที่สูง แถมยังแข็งแรงทนทาน ไม่บิดเบี้ยวง่ายเหมือนทองชนิดอื่น ๆ ที่เปอร์เซ็นต์สูงมาก ๆ

นอกจากนั้นทอง 18K คือทองที่มีส่วนผสมของโลหะชนิดอื่น ๆ อยู่อีก 25% ไม่ว่าจะเป็น เงิน ทองแดง หรือสังกะสี ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดสีสันต่าง ๆ เลยทำให้ทอง 18K ยิ่งเหมาะกับการเอามาใช้ในงานจิวเวลรี่เข้าไปใหญ่

ส่วนผสมทอง 18K	ทองคำ	ทองคำขาว	โรสโกลด์
ทอง	75%	75%	75%
เงิน	10-20%	18.5%	2.75%
ทองแดง	5-15%	1%	25.25%
สังกะสี	0%	5.5%	0%

2. การเลือกซื้อจิวเวลรี่ที่ใช้ทองต่ำกว่า 18K

จริง ๆ ตามท้องตลาดก็มีจิวเวลรี่ที่ใช้ทองต่ำกว่า 18K อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นทอง 9K หรือ 14K ที่มีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่ 37.5% และ 58.3% ทำให้จิวเวลรี่เหล่านั้นมีราคาที่ถูกกว่ามาก แต่ถ้าสวมใส่ไปนาน ๆ จะเจอปัญหาทองซีดหรือทองกรอบได้ เนื่องจากมีโลหะชนิดอื่นผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ เมื่อเจอกับอากาศ เหงื่อ หรือสบู่ บ่อย ๆ ก็จะทำให้เครื่องประดับเริ่มมีรอยแตกร้าว ซึ่งซ่อมแซมได้ยาก

3. การขายคืนทอง 18K

หลายคนอาจกังวลว่าทอง 18K จะขายคืนไม่ได้ หรือขายคืนแล้วราคาจะตกเยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องประดับที่ทำจากทอง 18K สามารถขายคืนหรือเอาไปจำนำได้ตามปกติ โดยราคาก็จะขึ้นอยู่กับเรทราคาทองในวันนั้น ๆ รวมถึงสภาพของเครื่องประดับที่นำไปขายคืนด้วย ดังนั้นถ้าใครคิดจะซื้อจิวเวลรี่ที่เป็นทอง 18K มาใส่ชั่วครั้งชั่วคราวแล้วขายคืน ก็ควรดูแลรักษาและทำความสะอาดเท่าที่จำเป็น เพื่อคงสภาพเดิมของเครื่องประดับไว้ให้มากที่สุด

เรื่องดี ๆ น่ารู้เกี่ยวกับ ‘งานจิวเวลรี่’

‘ ทำไมไม่ใช้ทองมากกว่า 18K ในงานจิวเวลรี่ ? ’

อย่างทองรูปพรรณที่อยู่ตามร้านทอง ก็ทำมาจากทอง 23K แล้วทำไมจะเอามาใช้ในงานจิวเวลรี่ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นเครื่องประดับเหมือนกัน นั่นเป็นเพราะจิวเวลรี่ส่วนใหญ่จะต้องมีการฝังเพชรฝังพลอยร่วมด้วย หากเอาทอง 23K หรือทองที่มีเปอร์เซ็นต์ 96.5% มาใช้ในจิวเวลรี่ จะทำให้ตัวเรือนไม่สามารถยึดเกาะอัญมณีเอาไว้ได้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เพชรราคาแพงจะหลุดหายไปได้นั่นเอง

หลังจากที่ทุกคนได้ทำความรู้จักกับทอง 18K กันไปแล้ว หลายคนก็คงอยากรู้เพิ่มเติมว่า ทอง K นั้นมีที่มามาจากอะไร ทำไมถึงเรียกว่า ทองเค แล้วนอกเหนือจากทอง 18K ยังมีทองแบบอื่น ๆ อีกไหม แล้วตัวเลขข้างหน้านั้นมาจากอะไร ก็ตามมาหาคำตอบกันได้เลย

ทองเค คืออะไร?

“สวยงามดูดี แถมยังทนทาน”

เมื่อพูดถึง ทองเค หรือ ทอง K หลายคนคงจะมีหน้า Bruno Mars ลอยมากับเพลง 24K Magic แถมในเนื้อเพลงต่าง ๆ ก็ชอบเอาคำว่า K มาใช้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทองเค ที่ใคร ๆ ก็ชอบพูดถึงมันคืออะไรและแปลว่าอะไรกันแน่

ทอง K คือ ทองแท้ ๆ ที่ได้ทำการผสมโลหะจำพวกต่าง ๆ ลงไป เพื่อให้ทองมีความแข็งแรงมากขึ้น ทนทานต่อการใช้งานได้ดีขึ้น สามารถยึดจับกับเพชรได้อย่างมั่นคง และไม่ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวหลังจากขึ้นรูปไปแล้ว หลาย ๆ คนที่เคยซื้อทองตามร้านทองมาใส่ ก็จะรู้เลยว่าเมื่อใส่ไปนาน ๆ ทองจะเริ่มมีการเปลี่ยนรูปไป

โดย ทองเค จะใช้หน่วยในการเรียกว่า กะรัต หรือ Karat เลยเป็นที่รู้กันว่าตัวอักษร K นั้นย่อมาจากคำว่า กะรัต นั่นเอง ซึ่งถ้ายิ่งตัวเลขหน้า K เยอะมากเท่าไร ก็แปลว่ามีจำนวนเปอร์เซ็นต์ของทองที่มากขึ้นเท่านั้น

เรื่องดี ๆ น่ารู้เกี่ยวกับ ‘ทองเค’

‘ หาเปอร์เซ็นต์ทอง ต้องคำนวณยังไง ? ’

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มหันมาสนใจเรื่องเครื่องประดับจิวเวลรี่ ก็คงอยากจะรู้ว่าตัวเลขที่อยู่ข้างหน้าตัว K นั้นมาจากไหน และต้องคำนวณยังไงถึงจะรู้เปอร์เซ็นต์ทองที่อยู่ในนั้น ก็มีสูตรคำนวณง่าย ๆ ดังนี้

วิธีหาเปอร์เซ็นต์ทองจากจำนวน K (จำนวน K ÷ 24) X 100
ตัวอย่าง การหาเปอร์เซ็นต์ของทอง 18K คือ
(18 ÷ 24) X 100 = 75 เปอร์เซ็นต์

วิธีหาค่า K จากเปอร์เซ็นต์ทองคำ (จำนวนเปอร์เซ็นต์ X 24) ÷ 100
ตัวอย่าง การหาค่า K จากเปอร์เซ็นต์ทอง 37.5 คือ
(37.5 X 24) ÷ 100 = 9K

‘ 4 ประเภททองเคที่เจอบ่อย ๆ มีอะไรบ้าง ? ’

ทอง 24K ทองคำบริสุทธิ์

เป็นทองที่บริสุทธิ์ที่สุด ด้วยเปอร์เซ็นต์ทองกว่า 99.99% เลยทำให้เป็นทองที่มีเนื้ออ่อนมาก ๆ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการบิดเบี้ยวและผิดรูปได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับการเอาไปทำเป็นเครื่องประดับที่เอาไว้สวมใส่เท่าไร แต่เหมาะมาก ๆ กับการเอามาทำเป็นทองคำแท่ง

ทอง 23K แข็งแรงกำลังดี

เป็นทองที่มีความแข็งแรงขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่ 96.5% ซึ่งน้อยกว่าทอง 24K อยู่นิดนึง จึงนิยมเอาทำเป็นทองรูปพรรณที่ขายกันอยู่ตามหน้าร้านทอง และด้วยความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นมาเลยทำให้สามารถเอามาสวมใส่ได้ แต่ยังต้องระมัดระวังในการใช้งานอยู่บ้าง

ทอง 18K เหมาะกับงานจิวเวลรี่

เป็นทองเคที่พบเจอได้บ่อยสุด ๆ มาพร้อมเปอร์เซ็นต์ทองราว ๆ 75% เลยทำให้เป็นทองที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่ยังคงสวยเงางามและมีมูลค่าสูงอยู่ จึงไม่แปลกที่แบรนด์เครื่องประดับนิยมเอามาใช้ในงานจิวเวลรี่

ทอง 9K น้ำหนักเบา

ด้วยความที่ทอง 9K มีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่ 37.5% จึงเป็นทองที่แข็งแรงทนทานสุด ๆ และเป็นประเภททองที่ได้รับความนิยมสูงในแทบประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ เพราะสีสวย ราคาไม่แพง แถมยังน้ำหนักเบาอีกด้วย