เจาะลึกมูลค่าไพลินในรอบครึ่งศตวรรษ: ความงามที่เติบโตพร้อมตัวเลข
ผู้เขียน :NGG Content ครีเอเตอร์

แนวโน้มราคา ไพลิน (Blue Sapphire) ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา (1975 - 2025) โดยรวมเป็นแนวโน้ม ขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งมีความผันผวนตามปัจจัยคล้ายกับทับทิม ได้แก่ แหล่งผลิต, คุณภาพ, ขนาด, การเผา, ความต้องการของตลาด และเหตุการณ์โลก

สรุปแนวโน้มราคาสำคัญในแต่ละช่วง:
1. ช่วงปี 1975 - 1990: เริ่มต้นจากพื้นฐาน
- แหล่งหลัก: ศรีลังกา (Ceylon), ไทย (จันทบุรี-กาญจนบุรี), กัมพูชา ราคาค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีการผลิตมาก โดยเฉพาะในไทย
- ตลาดยุโรปและญี่ปุ่นนิยม ไพลินสีอ่อน จากศรีลังกา
2. ช่วงปี 1990 - 2000: ความต้องการเริ่มเพิ่มขึ้น
- ตลาดอัญมณีเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพ โดยเฉพาะสี Royal Blue
- ไพลินจาก เมียนมา และ แคชเมียร์ (Kashmir) กลายเป็นไพลินที่หาได้ยากในตลาด
- ราคาของไพลินที่ไม่ผ่านการเผา กับไพลินที่ผ่านเผา มีราคาที่ต่างกันอย่างชัดเจน
3. ช่วงปี 2000 - 2010: ตลาดจีน-อินเดียเริ่มเข้ามา
- ความนิยมไพลินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไพลินที่มีน้ำหนักมากกว่า 3 กะรัต ขึ้นไป
- ไพลิน จาก มาดากัสการ์ เริ่มเข้าสู่ตลาด
4. ช่วงปี 2010 - 2020: ไพลินเริ่มหายาก
- เหมืองแหล่งเก่าๆ หลายแห่งปิดตัวลง ทำให้ไพลินธรรมชาติไม่เผาหายากขึ้น
- ตลาดมีความนิยมไพลินสี Royal Blue และ Cornflower Blue มากกว่าไพลินสีอ่อน
5. ช่วงปี 2020 - 2025: ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ไพลินคุณภาพสูง จากศรีลังกาและมาดากัสการ์ ที่ไม่ผ่านการเผา มีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว
- มีความต้องการไพลินสูงขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจัยหลักที่มีผลด้านราคา
รู้สึกพิเศษกว่าเดิมด้วยสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก NGG Jewellery
หากใครต้องการเป็นเจ้าของเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่การันตีคุณภาพและของแท้ทุกชิ้น สามารถมาช้อปกับเรา NGG Jewellery อาณาจักรเครื่องประดับแท้ที่รวบรวม ทั้งอัญมณี จิวเวลรี่ ทองคำ และนาฬิกา ไว้ในที่เดียว สามารถ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันNGG Jewellery เพื่อเลือกช้อปสินค้าและเพลิดเพลินไปกับความงดงามสุดล้ำค่า ได้แล้ววันนี้!
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด