การเดินทางของแหวน 1 วง จากดินสู่ดาว

ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นของตัวเรือน

เคยสงสัยกันไม่ว่า แหวนสวยๆที่มีพลอย เพชร ที่นำมาประดับที่นิ้ว ต้องผ่านกระบวนการใดบ้างมีใครที่ช่วยสร้างสรรค์งานขึ้นมาบ้าง วันนี้เราลองมาดูกัน สิ่งแรกที่เกิดขึ้นก่อนจะมีแหวน ขาดไม่ได้กับ นักออกแบบ นักออกแบบเครื่องประดับ ไม่เหมือนกับนักวาดรูป เพราะนักออกแบบเครื่องประดับ จำเป็นต้องคิดถึงว่า เมื่อออกแบบแล้วสามารถที่นำมาทำเป็นตัวเรือนได้ไหม และต้องวาดแบบอย่างไรให้ช่างเข้าใจ ขึ้นตัวเรือนได้ถูกต้อง ปัจจุบัน การออกแบบสามารถวาดโดยมือ หรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ไม่ว่าออกแบบด้วยวิธีไหน สิ่งสำคัญคือ เป็นการออกแบบที่สามารถขึ้นตัวเรือนได้ และถูกใจลูกค้า เมื่อได้แบบเรียบร้อย ก่อนที่จะถึงมือช่างขึ้นตัวเรือน เราต้องมีโลหะมีค่า ที่เอามาทำตัวเรือน เช่น ทอง เงิน เป็นต้น เราหาทองได้จากที่ไหน การทำเหมืองทองมีอยู่สองลักษณะหลัก คือเหมือง Visible กับเหมือง Invisible เหมือง visible คือเหมืองที่สามารถเห็นแร่ทองคำได้ด้วยตาเปล่า ส่วนเหมือง Invisible คือเหมืองที่แร่ทองคำมีขนาดเล็กมากๆ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

จำเป็นต้องมีกระบวนการในการนำทองคำออกมา ซึ่งกระบวนการทำมีความซับซ้อน มีกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งสามารถสรุปได้ง่ายๆ ดังนี้ ทำการบดหินที่มีสินแร่ทองคำให้มีความละเอียดเล็กมากๆ จากนั้นละลายทองที่ปนอยู่ในหินละเอียดออกมาด้วยกรดจะได้เป็นกรดที่มีทองปนอยู นำสารละลายนั้นมาใช้ไฟฟ้าในการดึงทองออกมา จะได้เป็นก้อนโลหะ ที่มีทั้ง ทองและเงิน ผสมอยู่มีชื่อเรียกว่า Dore แล้วนำก้อน Dore ไปแยกทองคำให้บริสุทธิ์มากขึ้น

หลังจากที่เรามีทองคำบริสุทธิ์ นำมาผสมกับโลหะชนิดอื่น เช่น เงิน เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์ของทองตามที่ต้องการ ก็ถึงเวลาของช่างฝีมือในการนำทองมาขึ้นตัวเรือนให้ได้แบบตามที่ต้องการ รวมถึงการนำพลอย และเพชรมาประดับฝังในตัวเรือน ขอขอบคุณบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) สำหรับภาพการทำเหมืองทอง และ Dore

ตอนที่ 2: เส้นทางของอัญมณี

จากตอนที่แล้ว เราได้ในส่วนของทอง ในการนำมาขึ้นเป็นตัวเรือน ต่อไปเรามาดูเส้นทางการเดินทางของ เพชรและพลอยกัน ว่ามีที่มาเป็นอย่างไร จากอัญมณีที่เหมือนก้อนหินไร้ค่า เมื่อนำมาเจียระไน กลายเป็นดวงดาวที่สวยงามมาประดับที่นิ้วเรา อัญมณีต่างล้วนเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณี ที่ใช้เวลาหลายล้านปี ตั้งแต่ แนวรอยเลื่อน ภูเขาไฟ น้ำพุร้อน ล้วนแล้แต่เป็นปัจจัยในการทำให้เกิดอัญมณีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกแนวรอยเลื่อน ทุกภูเขาไฟ ทุกน้ำพุร้อน จะมีอัญมณี แต่ต้องเป็นจุดที่มีแร่ธาตุ อุณหภูมิ ความดัน ที่เหมาะสม จึงจะทำให้เกิดอัญมณีขึ้น เมื่อมีอัญมณีเกิดขึ้นมา การที่เราจะรู้ว่าที่ใดมีอัญมณี ต้องมีการสำรวจพื้นที่ต่างๆ ว่าจุดใดจะมีอัญมณี และอัญมณีที่นั้นๆ มีคุณภาพเพียงพอที่จะนำมาเจียระไน แล้วได้เป็นอัญมณีที่สวยงาม เมื่อพบจุดที่มีอัญมณีที่มีคุณภาพ เราก็ทำการขุดทำเหมือง ซึ่งการขุดหาอัญมณี มีตั้งแต่ ขุดลึกไม่กี่เมตรจนถึงขุดลึกเกิน 600 เมตร

จากก้อนอัญมณีที่ขุดได้จากเหมือง มีบางส่วนที่สามารถนำไปเจียระไนเป็นอัญมณีที่มีประกายสวยงามที่เราคุ้นตากัน แต่บางส่วนนำมาปรับปรุงคุณภาพซึ่งการปรับปรุงคุณภาพที่ยอมรับกัน เช่น การปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน ในพลอยทับทิม ไพลิน ซึ่งการปรับปรุงด้วยวิธีนี้ ต้องใช้ความชำนาญ และประสบการณ์สูง ทั้งในการคัดพลอยที่สามารถนำมาปรับปรุง และการควบคุมอุณหภูมิที่ใช้ เพราะ พลอยแต่ละแหล่ง แต่ละเม็ดมีความเฉพาะตัวในการปรับปรุงต่างกัน รวมทั้ง ไม่ใช่พลอยทุกเม็ดที่ผ่านการปรับปรุงแล้ว จะสวยหมด ขึ้นกับปัจจัยเฉพาะตัวของพลอยแต่ละแหล่ง แต่ละเม็ด

เมื่อได้ก้อนอัญมณีที่มีสี คุณภาพตามที่เราต้องการ เราส่งตอให้กับ ช่างเจียระไน ผู้ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากอัญมณีที่คล้ายกับก้อนหิน ให้กลายเป็นอัญมณีที่สวยงามคล้ายกับดวงดาวได้ ช่างชำนาญการ จะสามารถอ่านอัญมณีแต่ละเม็ด ว่าเม็ดนี้ต้องเจียรด้านไหนเป็นด้านหน้า ด้านก้น เพื่อให้ได้อัญมณีที่สวยงามโดยที่มีการเสียน้ำหนักในการเจียรน้อยที่สุด ช่างแต่ละคน ต้องสะสมประสบการณ์นับ 10 ปี ถึงจะสามารถเจียระไนอัญมณีออกมาได้อย่างสวยงาม

ตอนที่ 3: การหลอมรวมเป็นแหวน

จากสองตอนที่ผ่านมา เราได้ตัวเรือน เราได้อัญมณี เรามาดูกัน ว่าขั้นตอนที่จะได้แหวนหนึ่งวง มีอะไรอีก ความมั่นใจในตัวแหวน และอัญมณี ว่าเป็นของแท้ ทองเปอร์เซ็นต์ถึงหรือไม่ จำเป็นที่ต้องให้ นักอัญมณีศาสตร์ และนักวิเคราะห์โลหะมีค่าเป็นผู้ตรวจสอบ นักอัญมณีศาสตร์คือใคร ทำอะไรบ้าง นักอัญมณีศาสตร์คือผู้ที่มีความรู้ทางด้านอัญมณี สามารถวิเคราะห์ และตรวจสอบว่าเป็น ธรรมชาติ หรือสังเคราะห์ ผ่านการปรับปรุงคุณภาพมาหรือไม่ แหล่งกำเนิดของพลอยว่ามาจากที่ใด รวมทั้งสามรถจัดระดับ ความสะอาด สี การเจียระไน น้ำหนัก ในเพชร เครื่องมือที่ใช้มีตั้งแต่ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มูลค่าหลายล้าน ไปจนถึงกล้องไมโครสโคปสำหรับดูพลอยโดยเฉพาะมูลค่าหลายแสนบาท แต่ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัย หรือมีราคาสูงเท่าใด สิ่งสำคัญคือ ประสบการณ์ของนักอัญมณีศาสตร์ ว่าเคยตรวจอัญมณีมามากน้อยเท่าใด ที่จะสงสัยในเห็นรายละเอียดที่น่าสงสัยเพียงเล็กน้อยที่มีในอัญมณี

Silk inclusions ที่ทำให้เกิด asterism effect ในทับทิมสตาร์

Tunnel like inclusion และสนิมเหล็ก ในพลอยแฟนซีแซฟไฟร์

ถึงคร่าวที่เรามาฝังอัญมณีลงในตัวเรือน ซึ่งวิธีการฝัง มีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับการออกแบบ ช่างฝังจะนำอัญมณีมาลองวางกับตัวเรือนดูว่าสามารถฝังได้หรือไม่ หากต้องปรับแต่งตัวเรือน ก็จะค่อยๆ ดัด ปรับ แต่งให้เหมาะสม ส่วนการฝังที่ถือว่าใช้เวลา และความประณีตมากๆคือ การฝังแบบไร้หนาม เป็นการฝังที่ช่างจำเป็นต้องมีการเจียร บากอัญมณี เพื่อให้อัญมณีแต่ละเม็ดเข้าล็อคกันพอดี เป็นการฝังที่ได้โชว์อัญมณีแบบไม่มีตัวเรือนมาบดบัง ช่างฝังต้องใช้เวลา และฝีมือเป็นอย่างมาก

เมื่อฝังอัญมณีเข้าตัวเรือน ก็เหลือการขัดผิวชิ้นงานให้สวยงามไร้รอยขูดขีด เป็นผิวที่เงางามใส คล้ายกระจก แหวนวงนี้ก็พร้อมที่จะให้เจ้าของได้สวมใส เพื่อเสริมความมั่นใจในโอกาสต่างๆได้ จากสามตอนที่ผ่านมา เห็นได้ว่า กระบวนการต่างๆที่รังสรรค์แหวนหนึ่งวง มีขั้นตอน และใช้ช่างที่มีความชำนาญหลายแขนงเข้มาเกี่ยวข้องมากมาย เพื่อที่ทำให้ ทรัพย์จากดิน กลายเป็นดาว มาประดับเราทุกคน

Eternity Emerald cut
Diamonds full eternity Ring

336,000 THB.

Engagement Rings
Daisy Diamond Ring

17,200 THB.

Engagement Rings
Diamonds solitare Ring

17,200 THB.

Engagement Rings
Solitare Ring

41,900 THB.