0
0
0

หยก A-jade B-jade และ C-jade เกรดไหนแพงที่สุด

ผู้เขียน :NGG Content ครีเอเตอร์

หยก A-jade C-jade

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า หยกคืออะไร หลายๆคนคงมีคำตอบว่า หยกคือหินสีเขียวที่มีมูลค่า ประกอบไปด้วยแร่ Nephrite และ Jadeite ซึ่งคำตอบนี้มีส่วนที่ถูกต้อง และมีส่วนที่ต้องมีความเข้าใจกันใหม่ ดังนั้น หยกคืออะไร หยก คืออัญมณีเนื้อละเอียดที่มีมูลค่า ประกอบไปด้วย Nephrite กับ เฝ่ยชุ้ย เรามาดูกันว่า Nephrite กับเฝ่ยชุ้ย คืออะไร หยกNephrite เป็นแร่ที่มีหลายสี เช่น แดง เขียว เหลือง ดำ แหล่งสำคัญที่ขุดพบคือ แคนาดา จีน และรัสเชีย มีชื่อเรียกที่จีนว่า He Tian Yu, 和田玉 เป็นหยกที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน และเป็นแพร่หลายในจีน เมื่อหลายพันปีมาแล้ว หยกโบราณที่มีอายุหลายพันปีบางส่วน ทำมาจากหยก Nephrite ลักษณะเนื้อมักจะเป็นเนื้อเนียนคล้ายเทียน มีแผ่นแร่สีเข้มกระจายอยู่ทั่ว ส่วนเฝ่ยชุ้ย Fei Cui,翡翠 เป็นหยกที่รู้จักมาอย่างยาวนานเช่นกัน แต่เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงราชวงศ์ ซิง โดยเฉพาะพระนางซูสีไทเฮา ทรงโปรดหยกเฝ่ยชุ้ยเป็นอันมาก เฝ่ยชุ้ยสามารถพบได้หลายสี เช่น ขาว ใสไม่มีสี เขียว แดง เหลือง ม่วง ลักษณะเนื้อ Jadeiteมักเป็นเนื้อที่คล้ายเส้นใยอยู่ภายใน ยิ่งเส้นใยเล็กละเอียดมากเท่าไรยิ่งมีราคาสูง มาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่า แล้วคำว่า Jadeite หายไปไหน Jadeite ไม่ได้หายไป เพียงแต่ด้วยเทคโนโลยีทางการตรวจสอบอัญมณีที่มากขึ้น ทำให้เราทราบข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้นเช่นกัน สิ่งที่เราเคยเรียกกันว่า Jadeite เมื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่า jadeite บางชิ้น ไม่ได้มีแค่เพียงแร่ Jadeite อยู่เพียงอย่างเดียว แต่กลับพบ แร่ Omphacite และKosmochlor ซึ่งแร่ทั้งสองตัวนี้ มีสี ลักษณะต่างๆทางกายภาพ ใกล้เคียงกันมากจนไม่สามารถแยกด้วยเครื่องมือตรวจสอบปกติ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือขั้นสูงในการตรวจสอบ จึงมีข้อตกลงเรียกรวมกันทั้ง Jadeite Omchacite และ Kosmochlor ว่า เฝ่ยชุ้ย ดังนั้นเมื่อเจอคำว่า Jadeite หรือ เฝ่ยชุ้ย คือพลอยตัวเดียวกัน


ลักษณะเนื้อของหยก Nephrite


ลักษณะเนื้อของหยก Jadeite

หลังจากรู้จักคำว่า เฝ่ยชุ้ย กันแล้ว เรามาดูคำว่า A-jade B-jade C-jade และ B+C-jade กันว่ามันคืออะไร
A-jade คือหยกเฝ่ยชุ้ยธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการปรับปรุงคุณภาพใดๆ อาจมีเคลือบ Wax ที่เกิดขึ้นจากการเจียระไน


B-jade คือหยกเฝ่ยชุ้ยที่มีการอัดเรซิ่นเข้าไปในรอยแตก ทำให้หยกใส สวยขึ้น เราสามารถใช้แสง UV ส่องดูได้ จะเห็นเป็นเส้นสีฟ้าเกิดขึ้นตามรอยแตกที่มีเรซิ่นอยู่ด้านใน เนื่องจากเรซิ่นมักจะเรืองแสงสีฟ้า


C-jade คือหยกเฝ่ยชุ้ยที่มีการย้อมสีในรอยแตก
B+C-jade คือหยกเฝ่ยชุ้ยที่ย้อมสี และอัดเรซิ่นในรอยแตก หรือที่เรียกกันว่า หยกอาบน้ำ

จะเห็นได้ว่า A-jade B-jade C-jade และ B+C-jade ไม่ได้เป็นการบอกถึงเกรดความสวย หรือราคา แต่เป็นการบอกถึงการปรับปรุงคุณภาพ ดังนั้น A-jade อาจไม่ใช่หยกที่ดูสวยที่สุด แต่เป็นหยกที่เป็นธรรมชาติที่สุด แทบไม่มีการปรับปรุงคุณภาพใดๆ ซึ่ง่แน่นอนว่า A-jade ที่สวย คุณภาพดี จะหายากและ ราคาดีที่สุด

รู้สึกพิเศษกว่าเดิมด้วยสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก NGG Jewellery

โปรโมชันสุดพิเศษเมื่อช้อปเครื่องประดับครบทุก 50,000 บาท** รับไปเลยทันที 1 Gold Coin (1 Gold Coin = Gold Bar 0.1 กรัม) สำหรับแลกเป็นทองคำจริง เพียงสมัครสมาชิกกับ NGG Jewellery พร้อมเตรียมรับมือกับความพิเศษเหล่านี้

  • ฟรีบริการตรวจสอบและทำความสะอาดเครื่องประดับของ NGG Jewellery
  • สิทธิพิเศษจาก NGG Design Hub Service และสิทธิการได้รับ Experience Gift
  • ของขวัญสุดพิเศษจาก NGG Jewellery ในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ ของทุกปี
  • สิทธิประโยชน์สุด Exclusive พิเศษเฉพาะสมาชิกของ NGG Jewellery เท่านั้น! กดสมัครสมาชิกและรอรับความพิเศษ ได้เลย!

    ทั้งหมดนี้ คือ การดูเหยก A-jade B-jade และ C-jade เกรดไหนแพงที่สุด หากใครต้องการเป็นเจ้าของเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่การันตีคุณภาพและของแท้ทุกชิ้น สามารถมาช้อปกับเรา NGG Jewellery อาณาจักรเครื่องประดับแท้ที่รวบรวม ทั้งอัญมณี จิวเวลรี่ ทองคำ และนาฬิกา ไว้ในที่เดียว สามารถ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันNGG Jewellery เพื่อเลือกช้อปสินค้าและเพลิดเพลินไปกับความงดงามสุดล้ำค่า ได้แล้ววันนี้!

    *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
    **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด