0
0
0

Desert Diamonds : เพชรแห่งทะเลทรายที่กำลังน่าจับตามอง

ผู้เขียน :NGG Content ครีเอเตอร์

De Beers Group

ในปี 2025 นี้ De Beers Group ได้ประกาศเปิดตัวแคมเปญระดับโลกใหม่ ในชื่อ “Desert diamonds” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีที่บริษัทเปิดตัว ‘beacon’ ใหม่เพื่อเน้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับอุตสาหกรรมเพชรสวมใส่ทั่วโลก

สำหรับคนรักอัญมณีและวงการแฟชั่น คำว่า Desert Diamonds อาจยังดูใหม่ — บทความนี้จึงจะพาไปรู้จักที่มาที่ไป คุณสมบัติ ความหมาย และแนวโน้มของ Desert Diamonds ว่าทำไมมันถึงกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองในยุคปัจจุบัน


จุดเริ่มต้นของแคมเปญ “Desert diamonds”

  • เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2025, De Beers ได้เปิดตัว Desert Diamonds แก่ผู้บริโภคทั่วโลก โดยใช้การลงทุนทางการตลาดเป็นจำนวนมาก — ถือเป็นแคมเปญสำคัญที่สุดในรอบสิบปีของบริษัท
  • แนวคิดของ “beacon” — ซึ่ง De Beers เคยใช้มาแล้วกับแคมเปญอย่าง tennis bracelets และ eternity rings — คือ การตั้งแนวคิดกลางที่แรงดึงดูด (beacon) ให้ทั้งอุตสาหกรรมเพชรร่วมหัวจิตหัวใจไปในทิศหนึ่งเดียว และช่วยจุดประกายการตลาดวงกว้าง
  • แคมเปญนี้ถูกเผยในงาน JCK Las Vegas ปี 2025 และคาดหวังว่าจะกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคทั่วโลก ต่อเพชรในโทนสีอบอุ่น (warm whites, champagnes, amber hues) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ทะเลทรายและการเกิดของเพชรในธรรมชาติ
  • De Beers ชี้ว่าเทรนด์นี้ไม่ใช่แค่แฟชั่นฉาบฉวย แต่เป็นการตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ ที่อยากได้สิ่งที่สื่อถึงความเป็นตัวเอง ความแท้จริง และเรื่องราวส่วนบุคคล (individuality, authenticity) มากกว่าเพียงแค่ “เพชรใสไร้สี (colorless)” แบบดั้งเดิม


แหล่งที่มา : debeersgroup.com

Desert Diamonds คืออะไร?

ชื่อ Desert Diamonds อาจฟังดูว่า “เพชรที่มาจากทะเลทราย” แต่ความจริงแล้วไม่จำเป็นว่าจะต้องขุดได้จากทะเลทรายเสมอไป เป็นการเปรียบเทียบกับสีและบรรยากาศของทะเลทราย ที่มีเฉดสีอบอุ่น และสะท้อนถึงภูมิทัศน์ที่โดดเดี่ยวและงดงาม
  • ช่วงสี (Color Spectrum) ของ Desert Diamonds วางโทนสีไว้ในขอบเขตที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ประกอบด้วยเฉดดังนี้
    สีอ่อน: ครีม (cream), เบจ (beige), แชมเปญ (champagne)
    กลาง: น้ำผึ้ง (honey), คาราเมล (caramel)
    เข้ม: วิสกี้ (whiskey), น้ำตาลแก่ (cognac / mocha), สีบรอนซ์อ่อน

    โดยโทนสีที่ได้มานี้เกิดจากองค์ประกอบของธาตุไนโตรเจนและการ “บิดเบี้ยว” โครงสร้างผลึกภายใน (Plastic Deformation) ซึ่งส่งผลให้เพชรมีสีต่างๆที่ไม่ใช่เพียง “ใสไร้สี” อย่างเดียว

  • การจัดระดับสีกับมาตรฐาน GIA



    แหล่งที่มา : debeersgroup.com
    - มาตรฐาน GIA (Gemological Institute of America) มีการจัดระดับสีตั้งแต่ D (ใสไร้สี) ถึง Z (สีเหลืองอ่อนๆ) สำหรับสีเพชรทั่วไป (เพชรใสไร้สี ถึงเหลืองอ่อนๆ)

    - เพชรที่ตกอยู่ในช่วงปลายของมาตรฐาน D–Z (เช่น สีเหลืองอ่อนๆ สีเหลืองอมน้ำตาล) อาจถูกจัดเป็น Desert Diamonds

    - สำหรับเพชรที่มีสีแฟนซี (“fancy color”) เช่น เหลืองเข้ม น้ำตาลจัด หรือสีผสมอื่น ๆ ก็อาจได้รับการจัดเข้าคลาส fancy color ตาม GIA (Fancy Light Yellow, Fancy Brownish Yellow, Fancy Deep Brown) — แต่บางสีในช่วงกลางอาจเรียกได้ว่าเป็น Desert Diamonds ได้เช่นกัน

  • การก่อตัวและลักษณะทางธรณีวิทยา



    แหล่งที่มา : debeersgroup.com
    เพชรทุกเม็ด รวมถึง Desert Diamondsเกิดขึ้นลึกใต้พื้นโลกประมาณ 140–200 กิโลเมตร ใช้เวลาหลายร้อยล้านถึงพันล้านปีในการก่อตัวภายใต้ความร้อนและแรงดันมหาศาล โดยมีอะตอมไนโตรเจนและธาตุร่องรอยอื่น ๆ เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดสีของเพชร เช่น หากมีธาตุไนโตรเจนอยู่ในโครงสร้างจะเกิดเฉดสีเหลือง จากใต้โลกหนึ่งในวิธีที่เพชรจะถูกพาเคลื่อนขึ้นมาสู่ผิวโลกผ่านการปะทุของภูเขาไฟ(บางลูกที่จะมีเพชร) และเมื่อลาวาเย็นตัวลงเป็นจะถูกฝังอยู่ในหินชนิด Kimberlite ซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก ความแตกต่างของสภาพแวดล้อมระหว่างการก่อตัว เช่น ความเข้มของธาตุร่องรอยและการ “บิดเบี้ยว” โครงสร้างผลึกภายใน (Plastic Deformation) ทำให้แต่ละเม็ดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเกิดเฉดสีอบอุ่น เช่น น้ำผึ้ง มอคค่า หรือคอนญัก ซึ่งสะท้อนความงามแบบ “Quiet Luxury” ความหรูหราที่ไม่ฉูดฉาดแต่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อันลุ่มลึกและเป็นธรรมชาติ

ทำไม Desert Diamonds ถึงได้รับความสนใจ?

1. แนวโน้มผู้บริโภครูปแบบใหม่ (New Consumer Demand) อยากได้อะไรที่ “เล่าเรื่องได้” สื่อถึงความเป็นตัวเอง และมีความหมายมากกว่าแค่ความหรูหราแบบเดิม De Beers พบว่า ผู้บริโภคกว่า 90% สนใจจะเป็นเจ้าของ Desert Diamond

2. มีการกล่าวถึงในสื่อโซเชียลอย่างกว้างขวาง ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Desert Diamonds ถูกพูดถึงในโลกดิจิทัลถึง 250,000 ครั้ง และมียอด view มากกว่า 450 ล้านครั้งทั่วโลก ช่วงที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือเดือนสิงหาคม 2025 เมื่อ แหวนหมั้นของ Taylor Swift ซึ่งประดับด้วยเพชรเฉด Desert Diamonds ได้จุดกระแสให้หลายคนหันมาสนใจเพชรโทนสี Desert Diamonds คนดังอีกหลายคน เช่น Kim Kardashian, Doja Cat ใช้สไตล์ layering หรือเลือกเพชร Desert เพื่อแสดงบุคลิก และ Bad Bunny เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ใช้ Desert Diamonds เมื่อประกาศเกี่ยวกับการปรากฏตัวที่ Super Bowl

3. ส่วนการเดินหน้าเป็นโครงการระดับอุตสาหกรรมนั้น De Beers ตั้งใจให้ Desert Diamonds เป็น “โครงการอุตสาหกรรม” ไม่ใช่สินค้าของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง โดยเชิญผู้ผลิตอัญมณีและร้านค้าปลีกต่าง ๆ มาร่วมกันพัฒนา คอลเลกชันที่ใช้เฉดสีแนวทะเลทราย ทั้งแบบไล่โทน (gradient) และดีไซน์เดี่ยวโดด (solitaire) โดยแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วม เช่น Jared Jewelers (ผ่านคอลเลกชัน Desert Sands of Eternity™) และ KAY Jewelers (ผ่านนักออกแบบ Neil Lane กับคอลเลกชัน Desert Diamonds) และใช้แผนการตลาดครอบคลุมหลายช่องทาง ได้แก่ โทรทัศน์, สื่อกลางแจ้ง, ดิจิทัล, สื่อเสียง และโซเชียลมีเดีย โดยใช้เรื่องเล่า (storytelling) ที่เน้นว่า “เพชรแต่ละเม็ดไม่เหมือนกัน เหมือนชีวิตของผู้สวมใส่”

ความหมาย และสัญลักษณ์ ในด้านจิตวิทยา

- Desert Diamonds โทนอ่อน เช่น แชมเปญ หรือครีม มักถูกเชื่อมโยงกับ ความสุข ความอุดมสมบูรณ์ และชีวิตชีวา
- Desert Diamonds เฉดที่เข้มขึ้น เช่น น้ำตาลเข้ม (cognac) หรือน้ำตาลไหม้ มักสื่อถึง ปัญญา การปกป้อง หรือการเป็นที่ยอมรับ
- Desert Diamonds สีอบอุ่นในชุดเดียวกัน (ไล่โทน) สื่อถึง “การเปลี่ยนผ่าน” ความสมดุล ระหว่างแสงกับเงา

การออกแบบและการใช้งาน

ข้อได้เปรียบหนึ่งของ Desert Diamonds คือ สามารถเข้ากับโลหะได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงิน, แพลทินัม, ทองเหลือง หรือทองแดง เพราะโทนอบอุ่นจะจับคู่ได้ดีโดยไม่ขัดกัน และในแง่ของดีไซน์ เราอาจเห็นแหวนเดี่ยว (solitaire) ที่มีสีโดดเด่น แหวนไล่เฉดสี (gradient / ombré) ประดับร่วมกับเพชรสีใส เพื่อเน้นความเล่นกับโทนสี หรือสร้อยคอ ต่างหู ที่ใช้เฉดอบอุ่นเป็นโทนหลัก

แนวโน้มในอนาคต และโอกาสในไทย / ภูมิภาค

มีแนวโน้มว่าแบรนด์เครื่องประดับรายย่อยในไทยและเอเชียอาจนำแนวคิด Desert Diamonds มาใช้ เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างจากเพชรใสไร้สีแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche marketing) เช่น แหวนหมั้นสีอบอุ่น, ต่างหูเฉดอุ่นสำหรับการแต่งกายเรียบง่าย หรืองานออกแบบที่ประสานกับเครื่องประดับแบบผสม (mixed metal jewelry) หรือเครื่องประดับลำลอง (everyday jewelry) อาจได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสีอบอุ่นสามารถเข้ากับโลหะหลายประเภทได้ดี

แม้ว่า Desert Diamonds จะได้รับความสนใจอย่างสูงจากทั้งแบรนด์และสื่อระดับโลก แต่ในมุมของผู้บริโภคทั่วไปยังคงมีความเข้าใจที่จำกัดเกี่ยวกับโทนสี เฉด และคุณค่าที่แท้จริงของเพชรประเภทนี้ จึงทำให้การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับในตลาด นอกจากนี้ การตรวจสอบและรับรองจากห้องปฏิบัติการที่เชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคและรักษามาตรฐานของตลาดเพชรธรรมชาติ


รู้สึกพิเศษกว่าเดิมด้วยสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก NGG Jewellery

  • รับ Gold Coin ทุกการช้อปที่ครบยอดกำหนดใช้เป็นส่วนลดออนไลน์ได้ทันที (1 Gold Coin = Gold Bar 0.01 กรัม) *มูลค่า Gold Coin ขึ้นอยู่กับราคาทองคำปัจจุบัน
  • ฟรีบริการตรวจสอบและทำความสะอาดเครื่องประดับของ NGG Jewellery
  • สิทธิพิเศษจาก NGG Design Hub Service และสิทธิการได้รับ Experience Gift
  • ของขวัญสุดพิเศษจาก NGG Jewellery ในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ ของทุกปี
  • สิทธิประโยชน์สุด Exclusive พิเศษเฉพาะสมาชิกของ NGG Jewellery เท่านั้น! กดสมัครสมาชิกและรอรับความพิเศษ ได้เลย!

    หากใครต้องการเป็นเจ้าของเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่การันตีคุณภาพและของแท้ทุกชิ้น สามารถมาช้อปกับเรา NGG Jewellery อาณาจักรเครื่องประดับแท้ที่รวบรวม ทั้งอัญมณี จิวเวลรี่ ทองคำ และนาฬิกา ไว้ในที่เดียว สามารถ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันNGG Jewellery เพื่อเลือกช้อปสินค้าและเพลิดเพลินไปกับความงดงามสุดล้ำค่า ได้แล้ววันนี้!

    *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
    **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด